รู้จักกับ 10 นักฟุตบอลระดับโลก ที่ทุกคนควรรู้จัก

10-นักฟุตบอลระดับโลก

รู้จักกับ 10 นักฟุตบอลระดับโลก ที่ทุกคนควรรู้จัก

ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ครองใจคนทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ และในประวัติศาสตร์อันยาวนานของกีฬาชนิดนี้ มีนักเตะมากมายที่ได้สร้างชื่อเสียงและกลายเป็นตำนานที่ผู้คนจดจำไปชั่วกาลนาน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ 10 นักฟุตบอลระดับโลก ที่มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลโลกอย่างมากมาย

1. เลโอเนล เมสซี่ (Lionel Messi)

เกิดวันที่ 24 มิถุนายน 1987 ที่เมืองโรซาริโอ ประเทศอาร์เจนตินา เมสซี่เป็นนักเตะที่หลายคนยกย่องว่าเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเริ่มต้นอาชีพกับบาร์เซโลนาตั้งแต่อายุ 13 ปี และได้สร้างสถิติมากมายให้กับสโมสรแห่งนี้

รางวัลที่สำคัญของเมสซี่ ได้แก่ Ballon d’Or ถึง 8 ครั้ง (2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021, 2023), ชิงแชมป์ยุโรป 4 ครั้งกับบาร์เซโลนา, และที่สำคัญที่สุดคือการนำทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 2022 ปัจจุบันเล่นให้กับอินเตอร์ ไมอามี่ ในลีก MLS

2. คริสเตียโน โรนัลโด (Cristiano Ronaldo)

เกิดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 1985 ที่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส โรนัลโดเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยความมุ่งมั่นและการรักษาร่างกายที่เข้มงวด เขาเริ่มต้นอาชีพกับสปอร์ติ้ง ลิสบอน ก่อนย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รางวัลสำคัญของโรนัลโด รวมถึง Ballon d’Or 5 ครั้ง (2008, 2013, 2014, 2016, 2017), ชิงแชมป์ยุโรป 5 ครั้ง (1 ครั้งกับแมนยู, 4 ครั้งกับเรอัล มาดริด), แชมป์ยูโร 2016 กับทีมชาติโปรตุเกส และเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ปัจจุบันเล่นให้กับอัล-นัสซร์ในซาอุดีอาระเบีย

3. เปเล (Pelé)

เกิดวันที่ 23 ตุลาคม 1940 ที่เมืองเทรส โคราซอนส์ ประเทศบราซิล ชื่อจริงคือ เอดสัน อารันเตส โด นาสซิเมนโต เปเลได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาฟุตบอล” และเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่คว้าแชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพได้ถึง 3 ครั้ง

ความสำเร็จของเปเล ได้แก่ แชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 3 ครั้ง (1958, 1962, 1970), การทำประตูกว่า 1,000 ประตูในอาชีพ และการเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นและทำประตูในฟิฟ่าเวิลด์คัพ (อายุ 17 ปี) เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2022 ด้วยวัย 82 ปี

4. ดิเอโก มาราโดนา (Diego Maradona)

เกิดวันที่ 30 ตุลาคม 1960 ที่เมืองลา นุส ประเทศอาร์เจนตินา มาราโดนาเป็นนักเตะที่มีทักษะการดริบเบิลที่เหนือธรรมชาติ เขาเป็นที่จดจำมากที่สุดจากการนำทีมชาติอาร์เจนตินาคว้าแชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 1986

ความสำเร็จของมาราโดนา รวมถึง แชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 1986, การพาทีมนาโปลีคว้าแชมป์เซเรียอา 2 ครั้ง (1987, 1990), และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในฟิฟ่าเวิลด์คัพ 1986 ประตูชื่อดัง “Hand of God” และประตูแห่งศตวรรษในเกมเดียวกันกับอังกฤษยังคงเป็นที่พูดถึงจนทุกวันนี้ เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2020

5. โจฮัน ครอยฟฟ์ (Johan Cruyff)

เกิดวันที่ 25 เมษายน 1947 ที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ครอยฟฟ์เป็นนักเตะที่ปฏิวัติวิธีการเล่นฟุตบอลด้วยปรัชญา “Total Football” เขาเป็นทั้งนักเตะและโค้ชที่มีอิทธิพลอย่างมาก

รางวัลสำคัญของครอยฟฟ์ ได้แก่ Ballon d’Or 3 ครั้ง (1971, 1973, 1974), ชิงแชมป์ยุโรป 3 ครั้งกับอาแยกซ์ (1971, 1972, 1973), และการพาทีมชาติเนเธอร์แลนด์เข้าถึงรองแชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 1974 ในฐานะโค้ช เขานำบาร์เซโลนาคว้าแชมป์ยุโรปครั้งแรก เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2016

6. ฟรานซ์ เบเคนเบาเออร์ (Franz Beckenbauer)

เกิดวันที่ 11 กันยายน 1945 ที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี เบเคนเบาเออร์ได้รับการยกย่องว่าเป็น “Der Kaiser” (จักรพรรดิ) เขาเป็นนักเตะที่ปฏิวัติตำแหน่งกองหลัง โดยเล่นแบบ “Libero” หรือกองหลังที่มีอิสระในการบุกขึ้นไป

ความสำเร็จของเบเคนเบาเออร์ รวมถึง แชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 1974 ในฐานะนักเตะและ 1990 ในฐานะโค้ช, Ballon d’Or 2 ครั้ง (1972, 1976), ชิงแชมป์ยุโรป 3 ครั้งติดต่อกันกับบาเยิร์น มิวนิค (1974, 1975, 1976) เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้คว้าแชมป์โลกทั้งในฐานะนักเตะและโค้ช

7. มิเชล ปลาตินี (Michel Platini)

เกิดวันที่ 21 มิถุนายน 1955 ที่เมืองจูล ประเทศฝรั่งเศส ปลาตินีเป็นนักเตะที่มีทักษะการส่งบอลและการยิงฟรีคิกที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นหัวใจสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศสในยุค 1980

รางวัลสำคัญของปลาตินี ได้แก่ Ballon d’Or 3 ครั้งติดต่อกัน (1983, 1984, 1985), แชมป์ยูโร 1984 กับทีมชาติฝรั่งเศส (พร้อมเป็นนักเตะยอดเยี่ยมและดาวซัลโว), และการพายูเวนตุสคว้าชิงแชมป์ยุโรป 1985 หลังจากเกษียณ เขาดำรงตำแหน่งประธานยูฟ่าระหว่างปี 2007-2015

8. ฮองเก อัลฟเรโด ดิ สเตฟาโน (Alfredo Di Stéfano)

เกิดวันที่ 4 กรกฎาคม 1926 ที่บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ดิ สเตฟาโนเป็นนักเตะที่มีความสามารถรอบด้านและเป็นหัวใจสำคัญของเรอัล มาดริดในยุคทองของสโมสร

ความสำเร็จของดิ สเตฟาโน รวมถึง ชิงแชมป์ยุโรป 5 ครั้งติดต่อกันกับเรอัล มาดริด (1956-1960), Ballon d’Or 2 ครั้ง (1957, 1959), และการเป็นดาวซัลโวของชิงแชมป์ยุโรป 5 สมัย เขาทำประตูให้เรอัล มาดริดรวม 308 ประตู จาก 396 เกม เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2014

9. โรนัลดินโญ (Ronaldinho)

เกิดวันที่ 21 มีนาคม 1980 ที่ปอร์โต อาเลเกร ประเทศบราซิล ชื่อเต็มคือ โรนัลโด เดอ อาสซิส โมเรรา โรนัลดินโญเป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นที่สวยงามและสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม

รางวัลสำคัญของโรนัลดินโญ ได้แก่ Ballon d’Or 2005, แชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 2002 กับทีมชาติบราซิล, ชิงแชมป์ยุโรป 2006 กับบาร์เซโลนา, และได้รับรางวัล FIFA World Player of the Year 2 ครั้ง (2004, 2005) เขาเป็นนักเตะที่ทำให้ฟุตบอลดูเป็นศิลปะด้วยการเล่นที่มีเสน่ห์และเทคนิคที่น่าทึ่ง

10. โรนัลโด นาซาริโอ (Ronaldo Nazário)

เกิดวันที่ 18 กันยายน 1976 ที่เมืองบาร์รา ประเทศบราซิล โรนัลโดได้รับฉายาว่า “El Fenómeno” (ปรากฏการณ์) เขาเป็นนักเตะที่มีความเร็วและการจบเกมที่ยอดเยี่ยม แม้จะประสบกับอาการบาดเจ็บหลายครั้ง

ความสำเร็จของโรนัลโด รวมถึง แชมป์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ 2 ครั้ง (1994, 2002), Ballon d’Or 2 ครั้ง (1997, 2002), FIFA World Player of the Year 3 ครั้ง (1996, 1997, 2002), และดาวซัลโวฟิฟ่าเวิลด์คัพ 2002 ด้วย 8 ประตู เขาทำประตูรวม 414 ประตูในอาชีพและเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟิฟ่าเวิลด์คัพ ในช่วงเวลาหนึ่ง

สรุป

นักฟุตบอลทั้ง 10 คนนี้ล้วนเป็นตำนานที่ได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนฟุตบอลทั่วโลก แต่ละคนมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน แต่ล้วนมีจุดร่วมกันคือความมุ่งมั่น ความพยายาม และพรสวรรค์ที่โดดเด่น พวกเขาไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเตะรุ่นใหม่และแฟนฟุตบอลทั่วโลกอีกด้วย

การศึกษาประวัติและผลงานของนักเตะเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงวิวัฒนาการของฟุตบอลโลกและสามารถชื่นชมความงามของกีฬาชนิดนี้ได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเล่น กลยุทธ์ หรือแม้แต่วิธีการฝึกซ้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย

แนะนำ 10 อันดับน่ารู้ อื่นๆ ที่คุณสนใจได้ทีนี้